สมิทธิชาดก ชาดกว่าด้วยการไม่รู้เวลาตาย
ท่านภิกษุท่านยังเด็กเยาว์วัยหนุ่มแน่น มีผมดำ ประกอบด้วยความหนุ่ม ทั้งยังเจริญ มีรูปงามน่าดู น่าเลื่อมใส ท่านเป็นเช่นนี้ ไม่บริโภคกาม ประโยชน์อะไรด้วยการบรรพชา จงบริโคกามเสียก่อนเถิด ภายหลังจึงค่อยบวชบำเพ็ญสมณะธรรม ” “ แน่ะ เทพธิดา เราไม่รู้ความตายของเราว่า เราจักตายเมื่ออยู่ในวันโน้น เรากำหนดเวลาไม่ได้ เพราะฉะนั้น เราจักบำเพ็ญสมณะธรรม ในตอนยังเป็นหนุ่ม แล้วจักทำที่สุดแห่งทุกข์ ” “ ถ้าอย่างนั้น ก็แล้วแต่ท่านเถิด ข้าขอลาก่อน ”
บุปผรัตตชาดก ชาดกว่าด้วยเป็นทุกข์เพราะภรรยาไม่ได้ผ้าย้อมดอกคำ
เมื่อทหารพาตัวชายผู้เป็นสามีมาถึงที่ ก็พาเขาไปเสียบที่หลาว เขาได้รับเวทนาแสนสาหัส ฝูงกาพากันไปเกาะที่ศีรษะ จิกนัยน์ตาด้วยจะงอยปากอันคมเหมือนปลายคีม ชายผู้นี้ไม่ได้ใส่ใจทุกขเวทนาที่ได้รับแม้แต่น้อย เขายังคงเฝ้าคิดถึงแต่หญิงอันเป็นที่รักเท่านั้น
อัตถัสสทวารชาดก ชาดกว่าด้วยประตูแห่งประโยชน์
“ อาจารย์ครับ ประตูแห่งประโยชน์ คือสิ่งใดหรือครับ ผมศึกษาจากตำราแล้ว ทั้งอาจารย์สำนักอื่น ก็ไม่มีใครตอบได้เลยครับ ” “ ศิษย์เอ๋ย ปัญหานี้มันช่างยากจริงๆ แม้แต่อาจารย์คนนี้ ก็ตอบเจ้าไม่ได้เช่นกัน ”
ทุพภิยมักกฏชาดก ชาดกว่าด้วยการคบคนชั่ว
ท่านพราหมณ์ ท่านได้ยินหรือได้เห็นที่ไหน ว่าลิงรู้คุณคน มีมารยาท มีศีล มีอยู่ เราจะถ่ายคูถรดศีรษะท่านเดี๋ยวนี้แหละ แล้วจึงจะไป นี่เป็นธรรมดา นี่เป็นสภาพโดยกำเนิดของพวกเรา ผู้ชื่อว่าเป็นลิง
มหธัมมปาลชาดก ชาดกว่าด้วยตระกูลที่ไม่ตายวัยหนุ่ม
“ มหาบพิตรในบัดนี้พระองค์จะทรงเชื่อได้อย่างไร แม้ในครั้งก่อน ครั้งหม่อมฉันเกิดเป็นมหธัมมปาลกุมาร เมื่ออาจารย์ทิศาปาโกเอากระดูกแพะมาแสดง บอกว่าบุตรของท่านตายเสียแล้ว นี่กระดูกบุตรของท่าน พระองค์ก็มิได้ทรงเชื่อ กล่าวกับอาจารย์ว่า ในตระกูลของเรานี้จักตายตอนกำลังหนุ่มนั้นเป็นไม่มี ก็เหตุไรในบัดนี้ พระองค์จักทรงเชื่อเล่า ”
จุลลโพธิชาดก ชาดกว่าด้วยความโกรธ
ดูก่อนภิกษุ ขึ้นชื่อว่าความโกรธ เธอควรจะห้ามเสีย อันความโกรธเห็นปานนี้ ที่จะทำประโยชน์ให้ในโลกนี้และโลกหน้าเป็นไม่มี เธอบวชในศาสนาของพระพุทธเจ้าที่ไม่โกรธแล้ว เหตุไรจึงยังโกรธเล่า
ฉวชาดก ชาดกว่าด้วยการนั่งที่ไม่สมควร
ครั้งหนึ่งพวกภิกษุฉัพพัคคีย์นั้นได้รับกิจนิมนต์จากชาวบ้าน ครั้นเมื่อไปถึงเรือนของผู้นิมนต์แล้วก็นั่งอยู่ในที่ต่ำแสดงธรรมแก่ฆราวาสซึ่งนั่งอยู่ในที่สูงกว่า ด้วยเห็นว่าพวกตนได้รับการดูแลอย่างดีจากเจ้าของบ้าน ภิกษุรูปหนึ่งเห็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมนั้น จึงนำความไปกราบทูลพระพุทธองค์ทรงทราบ
กักกรชาดก ชาดกว่าด้วยผู้ฉลาดเอาตัวรอดได้
ครั้งนั้นมีศิษย์ของพระสารีบุตรรูปหนึ่ง ได้ยินว่าภิกษุรูปนั้นเป็นผู้ฉลาดในการดูแลสุขภาพของตนเอง ไม่ฉันของเย็นจัด ร้อนจัด เพราะเกรงว่าร่างกายจะไม่สบาย ไม่ออกไปข้างนอกเพราะเกรงว่าร่างกายจะกระทบหนาวและร้อนไม่ฉันจังหันที่แฉะและเป็นท้องเลน
ครหิตชาดก ชาดกว่าด้วยลิงติเตียนมนุษย์
วานรทั้งฝูงเมื่อได้รู้ถึงพฤติกรรมของมนุษย์เช่นนั้นก็พากันติเตียน บ้างก็ชำระล้างหูของตน แล้วร่วมใจกันย้ายถิ่นฐานให้ไกลจากมนุษย์ เข้าไปในป่าลึกสุดๆ ของหิมพานต์
ปัญจภีรุกชาดก ชาดกว่าด้วยความสวัสดี
ในสมัยพุทธกาลเมื่อครั้งที่พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภพระสูตรว่าด้วยการประเล้าประโลมของมารธิดา ณ อัชปาลนิโคตธ
ทุราชานชาดก ชาดกว่าด้วยภาวะของหญิงรู้ได้ยาก
มหานครสาวัตถี นครหลวงของแคว้นในสมัยที่พระพุทธศาสนากำลังเจริญรุ่งเรืองบนแผ่นดินชมพูทวีปนั้น มหาชนผู้เลื่อมใสในคำสอนแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าต่างหลั่งไหลกันมาทั้งไกลใกล้มิได้เว้นว่างยังนำเครื่องไทยธรรมอันประณีตถวายพระพุทธองค์และภิกษุสงฆ์
จัมมสาฏกชาดก ชาดกว่าด้วยนักบวชไหว้แพะ
ในสมัยพุทธกาลเมื่อครั้งที่พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตะวันมหาวิหาร ทรงปรารภปริพาชกชื่อ จัมมสาฏก จีงทรงตรัสพระธรรมเทศนาดังนี้ กาลครั้งนั้นมีปริพาชกผู้หนึ่งบำเพ็ญตบะด้วยการเปลือยกาย มีเพียงผิวหนังเท่านั้นเป็นเครื่องนุ่งห่ม
ฆตบัณฑิตชาดก ชาดกว่าด้วยความดับความโศก
ณ บ้านหลังหนึ่งในเชตวัน สาวัตถี กุฎุมพีเจ้าของบ้านได้เกิดความเศร้าโศกเสียใจ เป็นอันมากเนื่องจากบุตรชายอันเป็นที่รักของเขาได้ตายจากไป ความเศร้าเสียใจของชายผู้นี้กินเวลาเนิ่นนาน วันเดือนปีจะผ่านพ้นไปเพียงใด เขาก็ยังไม่สามารถทำใจได้
กุลาวกชาดก ชาดกว่าด้วยการเสียสละ
พระศาสดาครั้นทรงแสดงพระธรรมเทศนาแล้ว ตรัสกับภิกษุว่า ดูก่อนภิกษุ บัณฑิตทั้งหลายในกาลก่อนครองราชย์สมบัติในเทวโลก ถึงจะสละชีวิตของตนก็ไม่กระทำปานาติบาตรด้วยประการดังนี้ เธอชื่อว่าบวชในศาสนาอันเป็นเครื่องนำออกจากทุกข์ เห็นปานนี้เหตุใดจักดื่มน้ำมีตัวสัตว์มิได้กรองเล่า
อัสสกชาดก ชาดกว่าด้วยพระเทวีอุพพรีเกิดเป็นด้วงขี้ควาย
ณ นครสาวัตถี มีภิกษุรูปหนึ่งเมื่อได้บวชแล้วก็ไม่สามารถตัดกิเลสได้ แต่ละวันได้แต่คิดถึงภรรยาจนไม่สามารถปฏิบัติกิจสงฆ์ได้
อารามทูสกชาดก ชาดกว่าด้วยความฉลาดอันไม่เป็นประโยชน์
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เดินทางเผยแผ่พระธรรมในที่ต่างๆ ครั้งหนึ่งได้เสด็จไปที่แคว้นโกศล ครั้งนั้นมีภิกษุตามเสด็จไปด้วยมากมาย เมื่อองค์ศาสดาเดินทางมาถึงแคว้นโกศล ได้มีเศรษฐีผู้หนึ่งได้นิมนต์ให้พักที่บ้านของตน
ลฏุกิกชาดก ชาดกว่าด้วยนางนกไส้ ตอนที่ 1
“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรากับพระเทวทัตนี้ ผูกเวรกันมาตั้งแต่อดีตชาติ แม้ในกาลก่อน เค้าก็มีพื้นฐานจิตใจโหดร้าย ไม่มีความเมตตาปราณี ผูกใจอาฆาตมาดร้ายมาจนถึงชาตินี้ เดี๋ยวเราจะเล่าให้พวกเธอทั้งหลายฟัง จะได้เข้าใจแล้วนำโอวาทเรานี้ไปน้อมนำจิตใจต่อไป”
มสกชาดก ชาดกว่าด้วยมีศัตรูผู้มีปัญญาดีกว่ามีมิตรโง่
อันชื่อว่ามนุษย์ย่อมมีทั้งดีและร้าย เมื่อมีคนที่ทำกรรมดีก็มีคนที่ทำกรรมชั่วเช่นกัน ครั้งหนึ่งเมื่อพระบรมศาสดาเสด็จจาริกไปในหมู่ชนชาวมคธได้เกิดเรื่อพิสดารขึ้น
สาเกตชาดก ชาดกว่าด้วยวางใจคนที่ชอบใจ
ครั้งเมื่อพระพุทธเจ้าประทับอยู่วัดอัญชนวัน เมืองสาเกต เช้าตรู่วันหนึ่ง พระพุทธองค์พร้อมหมู่ภิกษุสงฆ์ได้เข้าไปบิณฑบาตในเมืองสาเกต พบพราหมณ์ผู้หนึ่งเดินสวนไปนอกเมือง จู่ๆ พราหมณ์ผู้นั้นก็เข้ามาหมอบแทบเท้า จับข้อเท้าไว้แน่น “ ลูก ธรรมดาบุตรต้องปรนนิบัติบิดามารดาในยามแก่ชรามิใช่หรือ ทำไมลูกจึงไม่มาเยี่ยมเราเลย
โรมชาดก ชาดกว่าด้วยว่าด้วยอาชีวกเจ้าเล่ห์
ในพุทธกาลสมัยนั้น มีเรื่องราวหลากหลายเกิดขึ้น และมีผลกรรมเกี่ยวต่อผู้ที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาต่างกรรมต่างวาระกัน การแตกแยกของหมู่สงฆ์อันเป็นเรื่องสำคัญยิ่งที่เกิดขึ้นในแคว้นมคธ ซึ่งนับเป็นกรรม เป็นวิบากกรรมของพระเทวทัตที่ตามจองเวรต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า